107 เส้นทางใหม่ ตามแผนปฏิรูปรถเมล์ เริ่มบริการ 25 ก.ค.67

โดยสารที่ใช้บริการรถเมล์ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ศึกษาเส้นทางการเดินรถใหม่ เพราะวันนี้รถเมล์หลายเส้นทางมีการปรับเปลี่ยนเลขใหม่ รวมถึงการปรับเปลี่ยนเส้นทาง ตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในเขต กทม. และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง เช็คเส้นทางได้ที่นี่

วันนี้ (25 ก.ค.2567) เป็นวันแรกที่ ขสมก. เปิดให้บริการเดินรถในเส้นทางตามแผนปฏิรูป รวมทั้งหมด 107 เส้นทาง และอาจจะมีบางเส้นทางปรับเปลี่ยนตัวเลขใหม่ และการปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถือเป็นศูนย์กลาง การโดยสารโดยเฉพาะรถเมล์ ยกตัวอย่าง เกาะพหลโยธิน มีรถเมล์สาย 59 (เดิม) เส้นทางรังสิต-สนามหลวง แต่ปัจจุบันจะแยกเป็น 2 เส้นทางใหม่ คือสาย 59 (1-7E) รังสิต-สนามหลวง (ทางด่วน) และสาย 59 (1-8) รังสิต-สนามหลวง จากที่เคยจอดที่เกาะพหลโยธิน เปลี่ยนไปจอดที่เกาะดินแดงแทน รวมถึงสายอื่นๆ ที่เริ่มมีการปรับเปลี่ยนไป

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า เส้นทางทั้งหมดก่อนจัดทำแผนปฏิรูปฯ มีประมาณ 269 เส้นทาง ขณะนี้ได้คืนใบอนุญาตและเหลือให้บริการ 113 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทาง ของ ขสมก. 107 เส้นทาง เส้นทางที่วิ่งแทนเอกชน 3 เส้นทาง และเส้นทางเติมเต็มตามความต้องการของผู้โดยสาร 3 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้ก็มีรถวิ่งให้บริการกว่า 2,400 คัน เชื่อว่าเพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสาร

นอกจากนี้ ยังมีผู้ให้บริการรถเมล์ ภาคเอกชน หรือบริษัท ไทย สมายล์ บัส ที่ได้รับใบอนุญาตเดินรถอย่างถูกต้องทั้งหมด 123 เส้นทาง ซึ่งมีรถเมล์วิ่งให้บริการแล้วกว่า 2,350 คัน และพร้อมที่จะนำรถเมล์จำนวน 389 คัน ทยอยออกมาวิ่งให้บริการทดแทนผู้ประกอบการรายเดิมที่จะหยุดวิ่งให้บริการจำนวน 14 เส้นทาง

แต่ก็ต้องจับตาหลังจากนี้ ว่าภาพรวมการให้บริการรถเมล์ทั้ง ขสมก. และ เอกชน จะเพียงพอต่อความต้องการตามที่ระบุไว้หรือไม่ เพราะปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการรถเมล์ เฉลี่ยวันละประมาณ 650,000 – 700,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผู้โดยสารสับสนปรับเปลี่ยนเส้นทางรถเมล์

รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขสมก.เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้ามีบางเส้นทางที่ไม่มีผู้โดยสารขึ้นรถเมล์เลย ส่วนหนึ่งมาจากไม่ทราบว่ามีการปรับเปลี่ยนเส้นทางใหม่ และเปลี่ยนเลขสายรถเมล์ใหม่ ตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง จำนวน 107 เส้นทาง

ผู้โดยสารส่วนใหญ่ บอกว่า การปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ เป็นสิ่งที่ดี แต่ช่วงแรกก็เกิดความสับสน จึงควรมีการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับผู้ใช้บริการให้มากกว่านี้ เพราะประชาชนหลายกลุ่มยังไม่เข้าใจ โดยเฉพาะผู้สูงวัย ที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี

โดย ขสมก.ได้แก้ปัญหาโดยยังคงเดินรถเส้นทางเดิม ควบคู่กับเส้นทางปฏิรูปที่มีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ และให้ผู้ใช้บริการได้ปรับตัว และจะหยุดวิ่งเส้นทางเดิมตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.นี้เป็นต้นไป

ด้านนายวรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด กล่าวว่า ถือว่าการให้บริการในช่วงเช้าไม่ได้มีปัญหา และสามารถให้บริการได้ตามปกติ แต่ยอมรับว่ามีเรื่องร้องเรียนจากผู้โดยสารว่า สาย 77 เดิม (3-45) หมอชิตใหม่-เซ็นทรัลพระราม 3 และสาย 165 เดิม (4-56) บรมราชชนนี-สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี รอรถเมล์นาน และวันนี้จะเป็นวันแรกที่จะเริ่มให้บริการรถกะสว่างเพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารในการเดินทาง

107 เส้นทางของ ขสมก. ตามโครงการปฏิรูปรถเมล์

สำหรับผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าโดยสารผ่านช่องทาง

  • เงินสด
  • บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ขสมก. ทุกประเภท
  • บัตรเครดิต – เดบิต ที่มีสัญลักษณ์คอนแทคเลสทุกธนาคาร
  • สแกนจ่ายผ่านโมบายแบงค์กิ้ง
  • สิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ

6 เดือนแรกปีนี้พบร้องเรียนเรื่อง ระบบขนส่งสาธารณะ อันดับ 3

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เผยสถิติเรื่องร้องเรียน ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ พบว่า ระบบขนส่งสาธารณะ ติดอันดับ 3 ที่พบปัญหาเยอะที่สุด มีจำนวน 65 เรื่อง รองจาก อันดับ 1 คือปัญหาสินค้าและบริการ และอันดับ 2 เป็นปัญหาการเงินการธนาคารและประกัน

แต่หากเจาะไปที่ระบบการขนส่งสาธารณะประเภทรถเมล์โดยสารประจำทางในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า มักจะประสบปัญหาประชาชนเกิดความสับสนเรื่องเส้นทาง เนื่องจากป้ายรถเมล์บางจุด ไม่มีการปรับเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางที่แสดงบนป้าย ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความเข้าใจผิด รวมถึงตัวเลขรถเมล์บางเส้นทางที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ ตามแผนปฏิรูปรถเมล์ ขสมก. โดยกรมการขนส่งทางบก

Translate »